เมนู

5-7. ปฐมสุขสุตฺตาทิวณฺณนา

[65-67] ปญฺจเม วฏฺฏมูลกํ สุขทุกฺขํ ปุจฺฉิตํ, ฉฏฺเฐ สาสนมูลกํฯ สตฺตเม นฬกปานนฺติ อตีเต โพธิสตฺตสฺส โอวาเท ฐตฺวา วานรยูเถน นเฬหิ อุทกสฺส ปีตฏฺฐาเน มาปิตตฺตา เอวํลทฺธนาโม นิคโมฯ ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตนฺติ ยํ ยํ ทิสํ อนุวิโลเกติ, ตตฺถ ตตฺถ ตุณฺหีภูตเมวฯ อนุวิโลเกตฺวาติ ตโต ตโต วิโลเกตฺวาฯ ปิฏฺฐิ เม อาคิลายตีติ กสฺมา อาคิลายติ? ภควโต หิ ฉ วสฺสานิ มหาปธานํ ปทหนฺตสฺส มหนฺตํ กายทุกฺขํ อโหสิ, อถสฺส อปรภาเค มหลฺลกกาเล ปิฏฺฐิวาโต อุปฺปชฺชิฯ อุปาทินฺนกสรีรสฺส ฐานนิสชฺชาทีหิ อปฺปมตฺตเกน อาพาเธน น สกฺกา เกนจิ ภวิตุํฯ ตํ คเหตฺวาปิ เถรสฺส โอกาสกรณตฺถํ เอวมาหฯ สงฺฆาฏิํ ปญฺญาเปตฺวา เอกมนฺเต ปติรูปฏฺฐาเน ปญฺญตฺตสฺส กปฺปิยมญฺจสฺส อุปริ อตฺถริตฺวาฯ

9-10. กถาวตฺถุสุตฺตทฺวยวณฺณนา

[69-70] นวเม ติรจฺฉานกถนฺติ อนิยฺยานิกตฺตา สคฺคโมกฺขมคฺคานํ ติรจฺฉานภูตํ กถํฯ ตตฺถ ราชานํ อารพฺภ ‘‘มหาสมฺมโต มนฺธาตา ธมฺมาโสโก เอวํมหานุภาโว’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตกถา ราชกถาฯ เอส นโย โจรกถาทีสุฯ เตสุ ‘‘อสุโก ราชา อภิรูโป ทสฺสนีโย’’ติอาทินา เคหสิตกถาว ติรจฺฉานกถา โหติ, ‘‘โสปิ นาม เอวํมหานุภาโว ขยํ คโต’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปน กมฺมฏฺฐานภาเว ติฏฺฐติฯ โจเรสุปิ ‘‘มูลเทโว เอวํมหานุภาโว, เมฆเทโว เอวํมหานุภาโว’’ติ เตสํ กมฺมํ ปฏิจฺจ ‘‘อโห สูรา’’ติ เคหสิตกถาว ติรจฺฉานกถาฯ ยุทฺเธสุปิ ภารตยุทฺธาทีสุ ‘‘อสุเกน อสุโก เอวํ มาริโต เอวํ วิทฺโธ’’ติ กมฺมสฺสาทวเสเนว กถา ติรจฺฉานกถา, ‘‘เตปิ นาม ขยํ คตา’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปน สพฺพตฺถ กมฺมฏฺฐานเมว โหติฯ อปิจ อนฺนาทีสุ ‘‘เอวํ วณฺณวนฺตํ รสวนฺตํ ผสฺสสมฺปนฺนํ ขาทิมฺห ภุญฺชิมฺห ปิวิมฺห ปริภุญฺชิมฺหา’’ติ กามรสสฺสาทวเสน กเถตุํ น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘ปุพฺเพ เอวํ วณฺณาทิสมฺปนฺนํ อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลํ คนฺธํ สีลวนฺตานํ อทมฺห, เจติยํ ปูชิมฺหา’’ติ กเถตุํ วฏฺฏติฯ

ญาติกถาทีสุปิ ‘‘อมฺหากํ ญาตกา สูรา สมตฺถา’’ติ วา ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวํ วิจิตฺเรหิ ยาเนหิ วิจริมฺหา’’ติ วา อสฺสาทวเสน วตฺตุํ น วฏฺฏติ , สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘เตปิ โน ญาตกา ขยํ คตา’’ติ วา ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวรูปา อุปาหนา สงฺฆสฺส อทมฺหา’’ติ วา กเถตพฺพํฯ คามกถาปิ สุนิวิฏฺฐทุนฺนิวิฏฺฐสุภิกฺขทุพฺภิกฺขาทิวเสน วา ‘‘อสุกคามวาสิโน สูรา สมตฺถา’’ติ วา เอวํ อสฺสาทวเสเนว น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘สทฺธา ปสนฺนา’’ติ วา ‘‘ขยวยํ คตา’’ติ วา วตฺตุํ วฏฺฏติฯ นิคมนครชนปทกถาสุปิ เอเสว นโยฯ

อิตฺถิกถาปิ วณฺณสณฺฐานาทีนิ ปฏิจฺจ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา ขยํ คตา’’ติ เอวเมว วฏฺฏติฯ สูรกถาปิ ‘‘นนฺทิมิตฺโต นาม โยโธ สูโร อโหสี’’ติ อสฺสาทวเสเนว น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺโธ อโหสิ ขยํ คโต’’ติ เอวเมว วฏฺฏติฯ สุรากถนฺติ ปาฬิยํ ปน อเนกวิธํ มชฺชกถํ อสฺสาทวเสน กเถตุํ น วฏฺฏติ, อาทีนววเสเนว วตฺตุํ วฏฺฏติฯ วิสิขากถาปิ ‘‘อสุกวิสิขา สุนิวิฏฺฐา ทุนฺนิวิฏฺฐา สูรา สมตฺถา’’ติ อสฺสาทวเสเนว น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา ขยํ คตา’’ติ วฏฺฏติฯ กุมฺภฏฺฐานกถา นาม กูฏฏฺฐานกถา อุทกติตฺถกถา วุจฺจติ (ที. นิ. อฏฺฐ. 1.17; ม. นิ. อฏฺฐ. 2.223; สํ. นิ. อฏฺฐ. 3.5.1080)ฯ กุมฺภทาสิกถา วาฯ สาปิ ‘‘ปาสาทิกา นจฺจิตุํ คายิตุํ เฉกา’’ติ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา’’ติอาทินา นเยเนว วฏฺฏติฯ

ปุพฺพเปตกถา นาม อตีตญาติกถาฯ ตตฺถ วตฺตมานญาติกถาสทิโสว วินิจฺฉโยฯ นานตฺตกถา นาม ปุริมปจฺฉิมกถาวิมุตฺตา อวเสสา นานาสภาวา ติรจฺฉานกถาฯ โลกกฺขายิกา นาม ‘‘อยํ โลโก เกน นิมฺมิโต? อสุเกน นาม นิมฺมิโตฯ กาโก เสโต อฏฺฐีนํ เสตตฺตา, พลากา รตฺตา โลหิตสฺส รตฺตตฺตา’’ติเอวมาทิกา โลกายตวิตณฺฑสลฺลาปกถาฯ สมุทฺทกฺขายิกา นาม กสฺมา สมุทฺโท สาคโรติฯ สาครเทเวน ขตตฺตา สาคโร, ขโต เมติ หตฺถมุทฺทาย นิเวทิตตฺตา สมุทฺโทติเอวมาทิกา นิรตฺถกา สมุทฺทกฺขายนกถาฯ ภโวติ วุทฺธิ, อภโวติ หานิฯ อิติ ภโว อิติ อภโวติ ยํ วา ตํ วา นิรตฺถกการณํ วตฺวา ปวตฺติตกถา อิติภวาภวกถา นามฯ

เตชสา เตชนฺติ อตฺตโน เตชสา เตสํ เตชํฯ ปริยาทิเยยฺยาถาติ เขเปตฺวา คเหตฺวา อภิภเวยฺยาถฯ

ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก ปิณฺฑปาติโก มหาเถรํ ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต, เตชสา เตชํ ปริยาทิยมานา ภิกฺขู กิํ กโรนฺตี’’ติฯ เถโร อาห – อาวุโส, กิญฺจิเทว อาตเป ฐเปตฺวา ยถา ฉายา เหฏฺฐา น โอตรติ, อุทฺธํเยว คจฺฉติ ตถา กโรนฺติฯ ทสเม ปาสํสานิ ฐานานีติ ปสํสาวหานิ การณานิฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ

ยมกวคฺโค ทุติโยฯ

(8) 3. อากงฺขวคฺโค

1. อากงฺขสุตฺตวณฺณนา

[71] ตติยสฺส ปฐเม สมฺปนฺนสีลาติ ปริปุณฺณสีลา, สีลสมงฺคิโน วา หุตฺวาติ อตฺโถฯ ตตฺถ ทฺวีหิ การเณหิ สมฺปนฺนสีลตา โหติ สีลวิปตฺติยา จ อาทีนวทสฺสเนน, สีลสมฺปตฺติยา จ อานิสํสทสฺสเนนฯ ตทุภยมฺปิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. 1.9, 21) วิตฺถาริตํฯ ตตฺถ ‘‘สมฺปนฺนสีลา’’ติ เอตฺตาวตา กิร ภควา จตุปาริสุทฺธิสีลํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุตา’’ติ อิมินา ตตฺถ เชฏฺฐกสีลํ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสสีติ ทีปวิหารวาสี สุมนตฺเถโร อาหฯ อนฺเตวาสิโก ปนสฺส เตปิฏกจูฬนาคตฺเถโร อาห – อุภยตฺถปิ ปาติโมกฺขสํวโรว ภควตา วุตฺโตฯ ปาติโมกฺขสํวโรเยว หิ สีลํ, อิตรานิ ปน ตีณิ สีลนฺติ วุตฺตฏฺฐานํ อตฺถีติ อนนุชานนฺโต วตฺวา อาห – อินฺทฺริยสํวโร นาม ฉทฺวารารกฺขามตฺตกเมว, อาชีวปาริสุทฺธิ ธมฺเมน สเมน ปจฺจยุปฺปตฺติมตฺตกํ, ปจฺจยสนฺนิสฺสิตํ ปฏิลทฺธปจฺจเย อิทมตฺถนฺติ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุญฺชนมตฺตกํฯ นิปฺปริยาเยน ปาติโมกฺขสํวโรว สีลํฯ ยสฺส โส ภินฺโน, อยํ สีสจฺฉินฺโน วิย ปุริโส หตฺถปาเท เสสานิ รกฺขิสฺสตีติ น วตฺตพฺโพฯ ยสฺส ปน โส อโรโค, อยํ อจฺฉินฺนสีโส วิย ปุริโส ชีวิตํ เสสานิ ปุน ปากติกานิ กาตุํ สกฺโกติฯ ตสฺมา ‘‘สมฺปนฺนสีลา’’ติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวรํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘สมฺปนฺนปาติโมกฺขา’’ติ ตสฺเสว เววจนํ วตฺวา ตํ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต ปาติโมกฺขสํวรสํวุตาติอาทิมาหฯ ตตฺถ ปาติโมกฺขสํวรสํวุตฺตาติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนวฯ อากงฺเขยฺย เจติ อิทํ กสฺมา อารทฺธนฺติ? สีลานิสํสทสฺสนตฺถํ ฯ สเจปิ อจิรปพฺพชิตานํ วา ทุปฺปญฺญานํ วา เอวมสฺส ‘‘ภควา ‘สีลํ ปูเรถ สีลํ ปูเรถา’ติ วทติ, โก นุ โข สีลปูรเณ อานิสํโส, โก วิเสโส, กา วฑฺฒี’’ติ เตสํ ทส อานิสํเส ทสฺเสตุํ เอวมาห – ‘‘อปฺเปว นาม เอตํ สพฺรหฺมจารีนํ ปิยมนาปตาทิอาสวกฺขยปริโยสานํ อานิสํสํ สุตฺวาปิ สีลํ ปริปูเรยฺยุ’’นฺติฯ

ตตฺถ อากงฺเขยฺย เจติ ยทิ อิจฺเฉยฺยฯ ปิโย จสฺสนฺติ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสิตพฺโพ, สิเนหุปฺปตฺติยา ปทฏฺฐานภูโต ภเวยฺยํฯ มนาโปติ เตสํ มนวฑฺฒนโก, เตสํ วา มเนน ปตฺตพฺโพ, เมตฺตจิตฺเตน ผริตพฺโพติ อตฺโถฯ ครูติ เตสํ ครุฏฺฐานิโย ปาสาณจฺฉตฺตสทิโสฯ ภาวนีโยติ ‘‘อทฺธายมายสฺมา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสตี’’ติ เอวํ สมฺภาวนีโยฯ สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการีติ จตุปาริสุทฺธิสีเลสุเยว ปริปูรการี อสฺส, อนูเนน อากาเรน สมนฺนาคโต ภเวยฺยาติ วุตฺตํ โหติฯ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺโตติ อตฺตโน จิตฺตสมเถ ยุตฺโตฯ อนิรากตชฺฌาโนติ พหิ อนีหฏชฺฌาโน, อวินาสิตชฺฌาโน วาฯ วิปสฺสนายาติ สตฺตวิธาย อนุปสฺสนายฯ พฺรูเหตา สุญฺญาคารานนฺติ วฑฺเฒตา สุญฺญาคารานํฯ เอตฺถ จ สมถวิปสฺสนาวเสน กมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา รตฺตินฺทิวํ สุญฺญาคารํ ปวิสิตฺวา นิสีทมาโน ภิกฺขุ ‘‘พฺรูเหตา สุญฺญาคาราน’’นฺติ เวทิตพฺโพฯ อยเมตฺถ สงฺเขโป , วิตฺถาโร ปน อิจฺฉนฺเตน มชฺฌิมนิกายฏฺฐกถาย (ม. นิ. อฏฺฐ. 1.64 อาทโย) อากงฺเขยฺยสุตฺตวณฺณนาย โอโลเกตพฺโพฯ

ลาภีติ เอตฺถ น ภควา ลาภนิมิตฺตํ สีลาทิปริปูรณํ กเถติฯ ภควา หิ ‘‘ฆาเสสนํ ฉินฺนกโถ, น วาจํ ปยุตํ ภเณ’’ติ (สุ. นิ. 716) เอวํ สาวเก โอวทติฯ โส กถํ ลาภนิมิตฺตํ สีลาทิปริปูรณํ กเถยฺยฯ ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน ปเนตํ วุตฺตํฯ เยสญฺหิ เอวํ อชฺฌาสโย ภเวยฺย ‘‘สเจ มยํ จตูหิ ปจฺจเยหิ น กิลเมยฺยาม, สีลานิ ปริปูเรตุํ สกฺกุเณยฺยามา’’ติ, เตสํ อชฺฌาสยวเสเนวมาหฯ อปิจ สรสานิสํโส เอส สีลสฺส ยทิทํ จตฺตาโร ปจฺจยา นามฯ ตถา หิ ปณฺฑิตมนุสฺสา โกฏฺฐาทีสุ ฐปิตํ นีหริตฺวา อตฺตนาปิ อปริภุญฺชิตฺวา สีลวนฺตานํ เทนฺตีติ สีลสฺส สรสานิสํสทสฺสนตฺถมฺเปตํ วุตฺตํฯ